พระเอกของเรื่องนี้ มีพี่ชายเป็นเกมมาสเตอร์จึงได้เครื่องเล่นเกมนีโอยูนิเวิร์สมาเล่นฟรีๆ เข้าเล่นเกมด้วยหวังว่าจะได้เป็นเกมมาสเตอร์ แต่กลับถูกไวพจน์หลอกให้เข้ากองกำลังต่อต้านGM และบังคับให้เป็นหัวหน้าของกลุ่มที่ 1 ทั้งที่มีเลเวลเพียงเลเวล 1 เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะดูไร้สมองแต่ด้วยความเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและเปี่ยมไปด้วยความพยายามทำให้เป็นที่รักของคนในกองกำลัง เพราะตลอดช่วงเวลาที่กานดาอยู่ในกองกำลังต่อต้านGMนั้นกานดาได้แสดงออกถึงความสามารถให้สมาชิกได้เห็นอยู่เสมอๆ ทั้งการจัดการกับบอสแวเรียน การปกป้องกลุ่มอิริคเฮิร์บ การต่อสู้กับจอมมารเนโร และ การต่อสู้ในหมู่บ้านคัลไซล์ ทำให้กานดานั้นเป็นที่ยอมรับของทุกๆคนที่เขาได้เจอด้วย
ในโลกจริงนั้น กานดาเป็นคนลุกลี้ลุกลนตลอดเวลาอันเนื่องมาจาก ESP ของเขาเองซึ่งทำให้เพื่อนๆที่โรงเรียนชอบที่แกล้งโยนของใส่เขาอยู่เสมอแต่ก็ไม่เคยถูกเลย ปัจจุบันกานดาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนรวมมิตรประชาทัณฑ์ และเรียนอยู่ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นเรียนอยู่ห้องเดียวกับภัสสร ส่วนบ้านของเขาอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรที่มักจะมีน้ำท่วมเวลาฝนตกเสมอๆ แต่ปัญหาจริงๆของบ้านคือหลังบ้านจะเป็นป่ากล้วยผีสิงที่มีบ้านซึ่งฆ่าตัวตายยกครอบครัวและเฮี้ยนมากๆ (กานดาเคยเจอมาแล้วกับอัษฎาที่จำเป็นต้องมานอนที่บ้านกานดาเพราะเหตุน้ำท่วมและกับนันทกรในตอนที่ 98 เป็นผีสามตนที่มีเชือกผูกอยู่ที่คอ-อัษฎาเป็นลมทั้งๆที่ยังเก๊กหน้านิ่งอยู่)
ความสามารถของกานดานั้น มี 2 อย่างคือ 1.ESP Hyper Reaction หรือการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่หลบหลีกการโจมตีได้อย่างรวดเร็วเสมอ(นั่นเป็นสาเหตุที่เพื่อนๆโยนของอะไรใส่เขาก็ไม่เคยถูกซักที แถมเวลาหลบสกิลของวิศนะก็ได้ไฮเปอร์รีแอคชั่นช่วยในการหลบหลีก) และ 2.ทักษะหีบสมบัติ ซึ่งเป็นความสามารถของอาชีพ Randomiser ที่อยู่ใน Treasure Type ซึ่งสามารถเรียกความสามารถและอุปกรณ์ต่างๆออกมาได้โดยการสุ่ม ซึ่งทำให้เขาทั้งฝ่าวิกฤตและตกอยู่ในวิกฤตเสมอๆ
ภัสสร
ผู้เล่นในสังกัดกองกำลังต่อต้านGM กลุ่มที่ 1 เป็นคนที่ขยัน เก่ง ใจดี รักพวกพ้องและถึกทนทาน ทำให้ตอนต้นเรื่องทำหน้าDefenseหรือเป็นเป้าล่อกระสุนให้สมาชิกในกลุ่มที่ 1 ภัสสรสนิทกับทุกคนในกองกำลังต่อต้านGM จากสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอเป็นคนที่ดึงดูดสมาชิกหน้าใหม่เข้ามาโดยเฉพาะกลุ่ม เรนเจอร์อาร์มมี่ ที่ติดตามเธอมาด้วยความสมัครใจ
ภัสสร ในครั้งแรกนั้นรู้จักกับกานดาอยู่แล้วแต่เนื่องจากตัวละครของเธอไม่เหมือนกับตัวจริง ประกอบกับภัสสรนั้นชอบกานดาและอายที่จะบอกกานดาว่าเป็นตัวเธอ ทำให้กานดาไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ในห้องเดียวกัน แต่ทั้งสองคนก็ได้มารู้ภายหลังในตอนที่ 101
ภัสสรในโลกจริงนั้นก็เช่นเดียวกับในเกม เธอจะสนิทกับเด็กๆในบริเวณบ้านของเธอมากๆ สำหรับชีวิตในโรงเรียนนั้นภัสสรศึกษาอยู่ที่โรงเรียนรวมมิตรประชาทัณฑ์ และเรียนอยู่ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เช่นเดียวกับกานดา อีกทั้งยังอยู่ในห้องเดียวกันด้วย ภัสสรนั้นสนิทกับทุกคนในห้องแต่โดยเฉพาะกับหัวหน้าห้องนั้นภัสสรดูจะสนิทเป็นพิเศษ สำหรับบ้านของภัสสรนั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับวิริยา
ภัสสร เป็นอาชีพเป็นเรนเจอร์ และเลื่อนเป็นการ์เดี้ยนในตอนที่53 ทั้งสองอาชีพอยู่ใน Ranger Type ภัสสรมีทักษะการต่อสู้ที่สูงมากในระดับผู้เล่นทั่วไป เธอสามารถกระโดดได้สูงมากเนื่องจากมีสกิลติดตัวตามสายอาชีพและยังมีพลังป้องกันสูงกว่าคนทั่วไปมาก ทำให้เธออยู่ในระดับแนวหน้าของกองกำลังต่อต้านGMแม้ว่าจะไม่ได้เป็นระดับหัวหน้าก็ตาม นอกจากนี้ภัสสรยังดูแลกกองกำลังเรนเจอร์อาร์มมี่ที่เป็นพันธมิตรของกองกำลังต่อต้านGM มีหลายคนที่หวังให้เธอคู่กับกานดา แต่เพราะมัจฉายังมีสิทธิ์มากอยู่จึงไม่แน่ชัดว่ากานดาจะคู่กับใครกันแน่
อาวุธประจำตัวของภัสสรคือ Radiant silvergun ซึ่งมีพลังโจมตีปัจจุบันอยู่ที่550 และสามารถพัฒนาค่าพลังขึ้นไปได้เรื่อยๆ เจ้าปืนนี้มีดีตรงที่มันมีขนาดใหญ่มากจนแทบจะใช้ถือแทนโล่ได้อีกด้วย
เธอยังเป็นเจ้าของอีกหนึ่งไอเทมที่ไม่น่าจะจัดหมวดหมู่เป็นอาวุธ(มีพลังโจมตี0)คือ "บุปผาสวรรค์" ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองอาวุธแห่ง Event Horizon (ลำดับ7) ถึงจะไม่มีพลังโจมตีแต่ก็เป็นไอเทมบัฟสายยิงไกลซึ่งทำให้คนที่ถือสามารถโจมตีได้แรงและไกลขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีเป็นวงกว้าง และบีบอัดพลังเป็นเส้น Beam ได้ด้วย
ท่าหากินของภัสสรคือ Float shot (แต่ถูกมิ้นท์ขโมยไปด้วยการใช้สกิลซื้อในภายหลัง) ส่วนเรเดียนท์ ซิลเวอร์กัน นั้นมีท่าไม้ตายประจำอาวุธคือ Full option Radiant shot และ Prism Shot ซึ่งสามารถยิงได้ไกลถึงชั้นบรรยากาศของดาวเลยทีเดียว
วิริยา
สมาชิกกองกำลังต่อต้านGM กลุ่มที่ 1 ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 2 ในร่างของกระต่ายที่มีลักษณะล่ำสันใหญ่โต ก่อนจะเปลี่ยนเป็นร่างจริงจากการเปลี่ยนอาชีพเป็นฮีโร่ที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ซึ่งวิริยานั้นมีชื่อ2ชื่อในเกมคือ คุณกระต่ายและวิริยา วิริยานั้นเป็นคนที่ลักษณะไม่ค่อยยิ้ม พูดน้อยต่อยหนัก วิริยาเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นระดับหัวหน้าแต่ก็เป็นสมาชิกคนสำคัญอีกคนหนึ่งของกองกำลังต่อต้านGM เพราะเธอเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากมัจฉา นอกจากวิริยามีนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือ ชอบงุบงิบของหายาก และมัจฉามักจะมีเซนส์รับรู้ในทันทีที่วิริยาดร็อปของหายากหรือแรร์ไอเทมดีๆได้ในโลกจริงวิริยากับมัจฉานั้นรู้จักกันมาก่อนที่จะเล่นเกม Neo Universe วิริยานั้นชอบมัจฉามากๆทำให้เวลาที่คุยกับมัจฉานั้นแสดงอารมณ์ออกมาเต็มที่ ต่างกับที่แสดงกับคนอื่นๆ ชีวิตในโรงเรียนนั้นวิริยาเรียนอยู่ในโรงเรียนระดับมัธยมต้นช่วงชั้นที่3 ซึ่งไม่ปรากฏชื่อในเรื่อง ร่วมกับ มัจฉา เกษม และนันทกร โดยเฉพาะ เกษม และนันทกร นั้นเรียนอยู่ห้องเดียวกัน อนึ่งวิริยาเป็นคนที่เรียนเก่งติดระดับของชั้นเรียนด้วย ส่วนบ้านของวิริยานั้นอยู่คนละหมู่บ้านกับกานดาแต่ละแวกเดียวกัน
วิริยานั้นมีอาชีพ เจเนรัลในตอนแรกของเรื่อง และเปลี่ยนเป็นคลาสฮีโร่ในตอนที่52 ระดับความสามารถของเธอเทียบเท่าได้กับเกมมาสเตอร์เลยทีเดียว แถมเธอยังชอบการต่อสู้อีกด้วย นอกจากความสามารถที่สูงแล้ววิริยายังเป็นเจ้าของอุปกรณ์หายากหลายอย่างในกองกำลังต่อต้านGMด้วย เพิ่มเติมคือ ด้วยนิสัยของวิริยาที่ชื่นชอบการต่อสู้และฆ่าทั้งเพลเยอร์และGMไปเป็นจำนวนมากนั้นเอง ทำให้เธอมีค่าหัวที่สูงมากเช่นเดียวกัน
อาวุธประจำตัวของวิริยาคือ บลัดดี้เทียร์ส แต่มันได้พังลงในจังหวะที่เธอใช้ท่าไม้ตาย บลัดรีเลชั่น ใส่พวกล่าค่าหัวขณะหลบหนีบนยานอวกาศขนาดเล็ก จนเมื่อเธอได้คลาสเชนจ์เป็นฮีโร่แล้วจึงได้ซื้ออาวุธประจำตัวชิ้นใหม่คือ Legendary Wing (4ดาว, 750,000G)
ท่าประจำตัวของวิริยาเมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ก็คือ Spiral wave และ THR/8 (ไม้ตายสูงสุดประจำอาวุธ) ส่วนท่าไม้ตายประจำตัวของเธอเองนั้นคือ "น้ำตกเจ็ดสี"
ไวพจน์
รองหัวหน้ากลุ่มที่ 1 สมาชิกคนแรกที่กานดารู้จักเพราะเขาเป็นคนเข้าไปทักกานดาเอง และเป็นคนที่หลอกกานดาให้เข้าร่วมในกลุ่มที่1ของกองกำลังต่อต้านGM นิสัยของไวพจน์นั้นชอบที่จะโยนความโชคร้ายให้คนอื่นเสมอๆ ทำให้เขามีศัตรูทั่วไปหมดแม้จะไม่มีค่าหัวก็ตาม แต่สำหรับกองกำลังต่อต้านGMนั้นเขาถือเป็นคนสำคัญของกองกำลังเนื่องจาก เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองกำลังกองกำลังต่อต้านGM และความสามารถทางยุทธการของเขาที่ทำให้ฝ่าวิกฤตมาแล้วหลายๆครัง รวมไปถึงความสามารถในอาชีพของเขาที่สามารถผลิกแผลงได้กลยุทธ์ได้ตลอดเวลาในโลกจริง ไวพจน์เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง อายุ18ปี แต่ไม่ปรากฏว่าเรียนอยู่วิทยาลัยไหนและเป็นคนละวิทยาลัยกับอัษฎาด้วย ไวพจน์น่าจะเป็นคนรู้จักของมัจฉาด้วย ส่วนตัวจริงของเขานั้นเหมือนกับในเกมทุกอย่าง สามารถหาความเดือดร้อนให้คนอื่นได้เช่นเดียวกับในเกม
อาชีพของไวพจน์คือนักตัดต่อพันธุกรรมซึ่งจัดเป็น Beast Type ซึ่งสามารถใช้ บัตรพันธุกรรม ในการสร้างมอนสเตอร์ออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ ไวพจน์ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นนอกจากการใช้ทักษะนี้ควบคู่กับความฉลาดในด้านยุทธการของเขา
นันทกร
ปรากฏตัว
ครั้งแรกในตอนที่7 โดยอยู่ในลักษณะเป็ดโดยอ้างเป็นมอนสเตอร์ที่ควบคุมโดยผู้เล่น ที่คอยจัดการผู้เล่นที่หลงเข้ามาในเขต นิสัยของนันทกรนั้นคือเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ปากดีและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หลังจากการต่อสู้กับกานดาครั้งแรกทำให้กลายเป็นคู่แค้นตลอดกาลไป นันทกรจัดเป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้แก่เรื่องดีมากๆตัวหนึ่ง
ทั้งกานดาและนันทกรนั้น ได้มีโอกาสสู้กันหลายครั้งมาก แต่สุดท้ายจะจบลงที่การใช้คำสาปทุกครั้ง จนกระทั่งนันทกรได้เข้ามาอยู่ในกองกำลังต่อต้านGMทั้งสองจึงได้เลิกต่อสู้ กัน แต่เปลี่ยนเป็นแข่งกันเก่งแทน และนันทกรได้เปลี่ยนคู่แค้นเป็นเกมมาสเตอร์การ์ลิคแทน เนื่องจากไม่ชอบรอยยิ้มของเกมมาสเตอร์การ์ลิค
ในโลกจริงนันทกรเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับ เกษม วิริยา และมัจฉา นันทกรนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับเกษม และนันทกรยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับวิริยาอันเนื่องมาจาก นันทกรนั้นแอบหลงรักมัจฉา และได้มาขอให้เกษมที่เป็นรองหัวหน้ากลุ่ม 2 รับเข้า กองกำลังต่อต้าน GM แต่ วิริยาก็พูดขัดแข้งขัดขา ทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกัน ส่วนบ้านของนันทกรนั้นอยู่ใกล้กับบ้านของกานดาเพียงแค่ห่างกัน 5 หลังคาเรือนเท่านั้น และเนื่องจากตั้งอยู่บนฝั่งถนนเดียวกันทำให้บ้านของนันทกรติดกับป่ากล้วยผี สิงเช่นเดียวกับบ้านของกานดา ความเฮี้ยนของผีในป่ากล้วยทำให้ในตอนที่พ่อแม่ของนันทกรให้นันทกรอยู่บ้านคนเดียว นันทกรจึงต้องมุดมานอนบ้านกานดาด้วยความกลัว
นันทกรนั้นมีอาชีพคือ Monster ซึ่งความสามารถของเขานั้นเน้นไปทางการใช้สกิล Tranfrom แปลงร่างเป็นหลัก ทักษะที่โดดเด่นของนันทกรคือ 1.การแปลงร่างระหว่างร่างเป็ดและร่างมนุษย์ ที่จะสลับค่าความสามารถกัน โดยใช้สกิล Tranfrom 2.ทักษะ Soul Steal ที่ทำให้ดึงวิญญาณของมอนเตอร์ตัวไหนก็ได้ขึ้นกับระยะห่างระหว่างเลเวล (จะเพิ่มพลังโจมตี,พลังโจมตีเวทย์,พลังป้องกัน โดยมอนสเตอร์ที่ถูกดึงวิญญาณจะขยับไปไหนไม่ได้ และหากมอนสเตอร์ตัวนั้นตาย ผลของสกิลก็จะหายไป )
วันเดอร์แมน
สมาชิกกลุ่มที่1 อดีตเคยเป็นชาวหมู่บ้านคัลไซล์ที่กานดาเคยไปติดอยู่ มีนิสัยพูดเองเออเอง มั่นใจตัวเอง ชอบสอดและยุ่งเรื่องชาวบ้านและไม่ทุกข์ไม่ร้อนตลอดเวลา แม้วันเดอร์แมนจะมีนิสัยแบบนั้น แต่ในความจริงแล้วเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร และหาปัญหาร้ายแรงมาให้แก่สมาชิกในกลุ่มแบบตลอดเวลาที่ไปไหนก็ตาม จนแม้แต่คนในหมู่บ้านคัลไซล์ด้วยกันไม่กล้าให้เข้าร่วมกลุ่มจนได้รับฉายาว่า "ผู้โดดเดี่ยวแห่งคัลไซล์" เป็นตัวละครประเภทตลกฝืดที่ทำให้ขำเพราะไม่ขำ ส่วนในโลกจริงนั้นไม่ปรากฏตัววันเดอร์แมนเป็นสมาชิกกองกำลังต่อต้านGMที่มีเลเวลสูงที่สุดในขณะนี้ อันเนื่องมาจากเขาติดอยู่ในหมู่บ้านคัลไซล์เป็นเวลานานมากแล้วนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่เข้าร่วมในกองกำลังต่อต้านGM เพราะชาวบ้านคัลไซล์ไม่ต้องการให้วันเดอร์แมนร่วมเดินทางไปด้วย
วันเดอร์แมนมีอาชีพตามชื่อคือวันเดอร์แมนซึ่งไม่สามารถระบุสายได้ ความสามารถของวันเดอร์แมนนั้นเข้าขั้นที่เรียกได้ว่าไร้ประโยชน์อย่างแท้ จริง เพราะมีแต่สกิลไร้สาระที่หาประโยชน์ไม่ได้ แต่ในบางครั้งทักษะของวันเดอร์ก็สามารถปราบมอนเตอร์ระดับสูงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว อาวุธประจำตัวของวันเดอร์แมนคือ ปืนยิงเคริส์ทรานคอนดิชั่น อาวุธระดับสามดาวที่สามารถทำให้เป้าหมายเปลี่ยนเพศและค่าคุณสมบัติได้โดยอัตราสำเร็จขึ้นอยู่กับระยะห่างของเลเวล ซึ่งเหมาะสมกับวันเดอร์แมนเพราะเขามีเลเวลสูงสุดในกลุ่มนั่นเองและอาวุธอีกอย่างคือลูกดอกยาชา(รวมเล่ม 9 ตอน 73 หน้า 14)ใช้ตอนหยุดกานดาที่จะออกจากหมู่บ้านคัลไซล์โดยไม่ยอมเตรียมตัว
อัษฎา
อดีตหัวหน้ากลุ่มที่2 ที่ลาออกในตอนที่13เพื่อให้เกษมเป็นแทน ที่จริงเป็นคนหล่อขั้นเทพแต่ดันขี้อาย มักจะหลบอยู่หลังพุ่มไม้หรืออะไรสักอย่างทุกครั้งเวลาต้องเจอกับคนเยอะๆ แต่ก็ยังเก๊กได้ตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่สลบเพราะเจอผี อัษฎานั้นเชี่ยวชาญในการต่อสู้เป็นอย่างมากจนทำให้คิดว่าเขาไม่น่าจะเป็น หัวหน้ากลุ่ม2ที่เชี่ยวชาญการประดิษฐ์เลย เนื่องจากก่อนหน้าที่อัษฎาจะมารับตำแหน่งหัวหน้า เขาได้เข้าปะทะกับบอสคิงคองที่มีHPถึง62,000 ด้วยการดวลเดือดแบบล้มลุกคลุกคลานกว่าหนึ่งชั่วโมง บอสตัวนี้ก็ล้มลงท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาผู้สังเกตการณ์ และทำให้หัวหน้ากลุ่ม2ตกเป็นของอัษฎาไปในทันทีอัษฎาเป็นสมาชิกของกองกำลังต่อต้านGMคนแรกที่เกมโอเวอร์จากการปะทะกับเกมมาสเตอร์ และเป็นสาเหตุให้เขาต้องเข้าไปเก็บประสบการณ์เพิ่มในดันเจี้ยนบ้านวินเชสเตอร์ และกลับมารับหน้าที่หัวหน้ากลุ่มอีกครั้งในตอนที่80 โดยปัจจุบันมีเลเวล 56 และเขาก็เป็นร่างอวตารของโกสต์มาสเตอร์ ซึ่งเป็นบอสสูงสุดในดันเจี้ยนของบ้านวินเชสเตอร์
ในโลกจริงอัษฎาเป็น นักศึกษาอายุ19ปี ในวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ไม่ปรากฏชื่อและตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนของพวกเกษม ทำให้ทั้งอัษฎาและเกษมได้พบกันบ่อยๆ สำหรับบ้านของอัษฎานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกานดา แต่ลึกเข้าไปกว่าบ้านของกานดา ในตอนต่อมาก็พบว่าหนึ่งในเกมมาสเตอร์ชื่อ พัมพ์กิ้น นั้นก็เรียนอยู่ในวิทยาลัยแห่งเดียวกับอัษฎาด้วย ซึ่งทั้งสองคนเจอกันในคาบเรียนที่311
อัษฏากับเกษมเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากแม้จะต่างวัยกัน สาเหตุหนึ่งคืออยู่หน่วยเดียวกัน และในโลกจริง อัษฏายังไปเยี่ยมที่โรงเรียนเกษมบ่อยๆ ซึ่งความหน้าตาดีของเขาทำให้เป็นที่ป๊อบปูลาร์ของสาวๆมากถึงขนาดมาถามเอากับเกษมเสมอๆ โดยปกติแล้ว อัษฏาดูเงียบขรึม แต่ตัวจริงที่สุดของที่สุดนั้นอายเวลาต้องคุยกับคนอื่นๆจึงได้ชอบหลบหน้าหลบตา แต่กระนั้นก็ยังเป็นคนคุยสนุก มักหยิบยื่นความช่วยเหลือให้อีกฝ่ายโดยไม่ร้องขอและเป็นผู้ชายที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นเป็นอย่างดี
อัษฎามีอาชีพเป็นเบอเซอร์เกอร์และ จัดเป็น Sword Type การต่อสู้ของเขาเน้นไปที่ความเร็วและพลังโจมตีที่มากและมีพลังชีวิตน้อย ระดับฝีมือของเขาจัดอยู่ในอันดับ3ของกองกำลัง ถูกจัดเป็นBattle Mania(ผู้เล่นที่มีชีวิตอยู่ด้วยการต่อสู้กับเพลย์เยอร์หรือมอนสเตอร์เป็นหลัก ซึ่งยามปกติแล้วผู้เล่นประเภทนี้ถ้าไม่ได้ทำอะไรก็จะไม่มีอะไรทำ ซึ่งอัษฏาอยู่ในแบบเดียวกับกานดาและคลาร์ก) ส่วนอาวุธประจำตัวของเขาก็คือดาบเหล็กดัดที่น่าจะเป็นอาวุธ3ดาว สกิลประจำคือการลากดาบไปตามพื้น และเมื่อได้ระยะก็เหวี่ยงขึ้นใส่ศัตรูทำให้กระเด็นหรือลอยคว้างไปทั้งตัว ซึ่งมีพลังโจมตีที่รุนแรงขนาดทะลุการป้องกันของมอนสเตอร์เกราะหนาได้ง่ายๆ (ลากพสุธา) ส่วนสกิลไม้ตาย "ดาบลากพระอาทิตย์" นั้นก็มีลักษณะในการใช้งานใกล้เคียงกันแต่เสริมพลังโจมตีที่รุนแรงอยู่แล้วด้วยความร้อนจากการเสียดสีปลายดาบไปกับพื้น
อัษฏายังมีสกิลอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจคือ Swirl Cancel ซึ่งปรากฏออกมาในเล่มที่17 โดยสกิลนี้จะเป็นการควงดาบหลอกว่าจะโจมตีแล้วพลิกหลบเข้าไปอยู่ด้านหลังศัตรูภายในพริบตาโดยหน้าจะหันไปทางศัตรู แต่ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง
เกษม
รองหัวหน้ากลุ่มที่2 และเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าชั่วคราวในตอนที่13 เป็นเด็กหน้าตาดีติดหน้าสวยที่มีนิสัยจริงจังไปทุกเรื่อง ตัวเกษมเองนั้นมักจะพูดตัวเขาว่าทำไม่ได้ แต่เขาเป็นคนที่คอยสร้างความสามัคคีให้แก่คนในกลุ่มเป็นประจำ และยังทำในเรื่องที่มอบหมายให้จนสำเร็จอยู่เสมอ และเกษมนั้นยังแอบชอบภัสสรซึ่งทำผมใหม่แล้วด้วย(แต่ภัสสรก็ยังแอบชอบกานดา)
ในโลกจริง เกษมเป็นแค่เด็กมัธยมต้นที่ตัวเล็กจนเป็นปมด้อยเพราะตัวเขาสูง (148ซม.) กว่าเด็กประถมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ดีเขาก็เรียนในห้องเรียนเดียวกับ วิริยาและนันทกรซึ่งหมายความว่าเขาเป็นคนที่เรียนเก่งพอตัวทีเดียว ซึ่งส่งผลให้ภายในเกมเขาได้รับตำแหน่งระดับรองหัวหน้าไป นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนสนิทกับนันทกรที่ไม่ค่อยถูกกับวิริยา อีกด้วย
ในเกม เกษมมีอาชีพเป็นไฟท์เตอร์ที่อยู่ใน Martial Type ซึ่งเน้นการต่อสู้ระยะประชิด แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่ถนัดการต่อสู้มากนักเพราะทักษะส่วนใหญ่นั้นมัจฉาเป็นคนคิดให้เสียมากกว่า ความสามารถจริงๆของเขาจึงเป็นคนประสานภายในกองกำลังต่อต้านGMเป็นหลัก ทว่าเมื่อถึงเวลาต่อสู้ เกษมเป็นตัวจู่โจมหลักที่สำคัญมากในการใช้สกิลเฟืองยักษ์ในการช่วยปราบบอส มอนสเตอร์หรือคนที่มาหาเรื่อง โดยวานให้พรรคพวกช่วยสู้ถ่วงเวลา เพราะสกิลเฟืองยักษ์นั้นใช้เวลาชาร์จนาน แต่เมื่อได้จู่โจมออกไปแล้วจะทำดาเมจต่อเนื่องไม่มีหยุดแม้ตัวเกษมจะเลือดเหลือแค่ 0แล้วก็ตามที
มัจฉา
หัวหน้ากองกำลังต่อต้านGM เป็น1ใน12ผู้ปกป้องกุญแจสู่โปรเทคชั่นไฟร์วอลล์ในเกมนีโอยูนิเวิร์ส เป็นเด็กอัฉริยะที่เก่งในทุกๆด้าน มัจฉานั้นเป็นผู้วางโครงสร้างและภารกิจทั้งหมดของกองกำลังต่อต้านGMทั้งหมด มีนิสัยห่วงใยทุกๆคนในกองกำลังและให้ยุติธรรมกับทุกคน แม้จะติดขี้บ่นและขี้วีนเป็นบางเวลา อีกทั้งยังมีน่าตาน่ารักขนาดที่ทุกคนในกองกำลังต่อต้านGMชอบทุกคน ทั้งหมดเมื่อรวมกันทำให้ทุกคนในกองกำลังต่างศรัทธาในตัวของเธอ และยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเธออย่างเคร่งครัด
ในโลก จริงมัจฉาเรียนในโรงเรียนเดียวกับ เกษม วิริยา และนันทกร แต่อยู่กันคนละห้อง ซึ่งแน่นอนว่าเธอคืออันดับหนึ่งของชั้นเรียน ความอัจฉริยะของมัจฉาทำให้เธอเก่งในทุกๆด้าน นิสัยตัวจริงนั้นเหมือนกับในเกมแต่ที่เพิ่มมาคือ ปากร้ายมากขึ้นและพูดตรงมากๆ ส่วนบ้านของมัจฉานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับวิริยาและบ้านใกล้กัน และมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี 1ใน5ค่าขนมของมัจฉานั้นเท่ากับพิซซ่าถาดใหญ่1ถาดที่เธอเลี้ยงกานดา มัจฉานั้นรู้จักกับวิริยามานานทำให้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และมัจฉานั้นดูจะสนใจในตัวของกานดาเป็นพิเศษซึ่งมีสังเกตจากมัจฉาจะติดต่อ กานดาโดยตรงบ่อยๆทั้งๆที่บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องของกองกำลังต่อต้านGM และจากเนื้อหาในตอนที่64 และ 79
มัจฉานั้นมีอาชีพ 2 สายนั่นคือ คีย์มาสเตอร์ และ จักรพรรดินี ซึ่งไม่สามารถระบุสายอาชีพได้ ซึ่งแสดงถึงความสามารถ อุปนิสัยและทักษะของมัจฉาเป็นอย่างดี และยิ่งรวมกับ ESP ของเธอคือ Primaric Genius (อัฉริยะขั้นต้น) ยิ่งทำให้มัจฉาสามารถแสดงออกถึงความสามารถของอาชีพนี้อย่างที่สุด
ในภาคศึกชิงกุญแจ มัจฉาได้กลับมาอีกครั้งในชุดสีดำ และได้เปิดศึกชิงกุญแจกับเหล่าเกมมาสเตอร์ เธอกับภัสสรได้ใช้สุดยอดท่าไม้ตายประสาน จัสติส เอฟฟลอเรสเซ้นส์พุ่งเข้าใส่โฮลี่ออร์เดอร์ แต่ถูกยับยั้งไว้โดยเกมมาสเตอร์เลมอน แต่เลมอนก็ถูกคนที่มัจฉาพามาด้วยรุมโจมตีทำให้เธอหลุดออกจากสกิลของเลมอนได้ และจัดการส่งจัสติส เอฟฟลอเรสเซ้นส์ได้สำเร็จ แต่แล้วเกมมาสเตอร์แครอทก็เข้ามาขวาง แต่ก็ยังหยุดสกิลไม่ได้ แครอทจึงใช้ท่าไม้ตายสุดท้าย เอเทอนัล สตาร์ ซึ่งจะเปลี่ยนร่างเขาให้กลายเป็นอสูรสังหารโซลิแตร์ และระเบิดพื้นที่ตรงนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้สกิลของมัจฉาสลายไปกับการเกมโอเวอร์ของแครอท
ผลสุดท้าย โฮลี่ออร์เดอร์ได้กุญแจไป เขามีสภาพเป็นอมตะ(การโจมตีใส่เขาจะไม่มีดาเมจ)และเปลี่ยนพื้นที่รอบๆให้กลายเป็นพื้นที่ประจุไฟฟ้า และบริเวณรอบๆมีหลุมมิติ ทำให้กองกำลังต่อต้านGMไม่สามารถเข้าไปแย่งกุญแจคืนมาได้ ทำได้เพียงมองอยู่ห่างๆ รอคอยการเคลื่อนย้ายออกจากหอคอยภูตเท่านั้น และแล้ว ทางสภาสูงก็ได้ส่งยานอวกาศมาให้ลำหนึ่ง ทำให้กองกำลังอพยพออกจากดาวได้สำเร็จ และในขณะที่ มัจฉานำกองกำลังต่อต้านออกจากดาวภูต ก็ประจวบเหมาะกับที่กุญแจหนึ่งเดียวถูกสร้างได้สำเร็จพอดี และโฮลี่ออเดอร์กำลังมุ่งหน้าไปยังโพรเท็คชั่นไฟร์วอลล์โดยใช้สกิลคอสมิค เอเลเวเตอร์เป็นตัวเปิดโพรงมิติระหว่างดาวต่างๆ ซึ่งเธอได้สั่งการให้ยานอวกาศไล่ตามโฮลี่ออร์เดอร์ไปทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น